แหล่งข้อมูลดีๆ ด้านความปลอดภัยในการทำงาน ที่ update ใหม่ทุกวัน
ควันและฝุ่นงานเชื่อม ภัยเงียบที่มองไม่เห็น

ควันและฝุ่นงานเชื่อม ภัยเงียบที่มองไม่เห็นและวิธีป้องกันสุขภาพในที่ทำงาน

by Krin Jennings
24 views

การเชื่อมเป็นกระบวนการที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการผลิตเครื่องจักรและชิ้นส่วนต่าง ๆ แม้ว่าการเชื่อมจะเป็นงานที่มีความสำคัญ แต่ก็มีอันตรายหลายประการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะควันและฝุ่นงานเชื่อมที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ควันและฝุ่นเหล่านี้สามารถทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานได้

องค์ประกอบของควันและฝุ่นงานเชื่อม

ควันและฝุ่นงานเชื่อมประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการเชื่อมโลหะที่มีสารตะกั่วหรือแคดเมียม จะทำให้เกิดควันที่มีสารพิษเหล่านี้ การสูดดมสารเคมีเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้

  • ตะกั่ว (Lead): ตะกั่วเป็นสารพิษที่สามารถสะสมในร่างกายและก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาท ระบบเลือด และไต
  • แคดเมียม (Cadmium): เป็นโลหะหนักที่สามารถสะสมในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อปอดและไต รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
  • เหล็กออกไซด์ (Iron Oxide): ฝุ่นและควันจากการเชื่อมเหล็กมักประกอบด้วยเหล็กออกไซด์ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับปอด เช่น โรคซิลิโคซิส (Silicosis) และการอักเสบของปอด

ฝุ่นงานเชื่อมส่งผลต่อสุขภาพยังไงบ้าง

ฝุ่นงานเชื่อมส่งผลต่อสุขภาพยังไงบ้าง

ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ

ควันและฝุ่นเชื่อมสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้แก่:

  • โรคซิลิโคซิส (Silicosis): โรคที่เกิดจากการสูดดมฝุ่นที่มีส่วนผสมของซิลิกา ซึ่งเป็นสารที่พบในฝุ่นจากการเชื่อมเหล็ก หากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานานจะทำให้ปอดเกิดการอักเสบและแข็งตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหายใจลำบากและโรคเรื้อรังอื่น ๆ
  • โรคหอบหืดจากการทำงาน (Occupational Asthma): การสูดดมสารเคมีที่อยู่ในควันเชื่อม เช่น ไอโซไซยาเนต (Isocyanates) สามารถกระตุ้นการเกิดโรคหอบหืดหรือทำให้อาการหอบหืดที่มีอยู่แย่ลงได้
  • โรคมะเร็งปอด (Lung Cancer): การสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น โครเมียมเฮกซาวาเลนต์ (Hexavalent Chromium) และนิเกิล (Nickel) ที่พบในควันเชื่อมสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้

ผลกระทบต่อระบบผิวหนัง

นอกจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหายใจแล้ว ควันและฝุ่นเชื่อมยังสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อผิวหนังได้อีกด้วย:

  • โรคผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis): สารเคมีที่อยู่ในควันและฝุ่นเชื่อมสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการแพ้ผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นแดง คัน และอักเสบ
  • แผลจากความร้อนและการเผาไหม้: ฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการเชื่อมสามารถทำให้เกิดแผลหรือการเผาไหม้บนผิวหนังได้ หากไม่ได้รับการป้องกันที่เหมาะสม

การป้องกันและจัดการความเสี่ยง

การป้องกันและจัดการความเสี่ยง

การป้องกันและจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากควันและฝุ่นเชื่อมเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ การลดความเสี่ยงสามารถทำได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้:

  • การใช้หน้ากากป้องกัน: การใช้หน้ากากที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กและควันได้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานสูดดมสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
  • การระบายอากาศที่เหมาะสม: การติดตั้งระบบระบายอากาศที่ดีจะช่วยลดปริมาณควันและฝุ่นในพื้นที่การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การตรวจสุขภาพประจำปี: การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้ตรวจพบปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสควันและฝุ่นเชื่อมได้ในระยะแรกเริ่ม
  • การฝึกอบรมและให้ความรู้: การให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับอันตรายของควันและฝุ่นเชื่อม รวมถึงวิธีการป้องกันตัวเอง จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน

ผู้ดูแลความปลอดภัยของพนักงาน : โดยทั่วไปแล้ว จป หัวหน้างานต้องเป็นคนดูแลความปลอดภัยของลูกน้องภายใต้บังคับบัญชา หากมีเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้น ต้องทำรายงานแจ้งอุบัติเหตุและสาเหตุการเกิด ซึ่งหากเป็นจุดที่มักเกิดอันตรายบ่อยๆ หรือต้องมีการปรับปรุงจะต้องนำไปเป็นวาระการประชุม ของคณะกรรมการความปลอดภัยในการทำงาน (คปอ) ต่อไป

รู้หรือไม่ เป็นลูกจ้างก็สามารถมีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบายองค์กร ได้โดยในคณะกรรมการความปลอดภัยในการทำงาน (คปอ) จะมีส่วนที่เลือกจากลูกจ้างเข้ามาทำในตำแหน่งนี้ ลูกจ้างที่สนใจสามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ เมื่อชนะการเลือกตั้งจากนั้นต้องเข้าอบรมหลักสูตร คปอ สามารถเลือกได้ทั้งอบรม คปอ in house และ อบรม คปอ บุคคลทั่วไป 

กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเชื่อม

กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายแรงงานและข้อบังคับในหลายประเทศมีการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการควันและฝุ่นเชื่อมในสถานที่ทำงาน โดยมีการกำหนดค่าความเข้มข้นสูงสุดของสารเคมีที่อนุญาตให้มีในอากาศ ในสถานที่ทำงาน เช่น:

  • กฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน: กฎหมายในหลายประเทศระบุว่าผู้จ้างงานต้องมีการจัดหาสิ่งป้องกันที่เหมาะสม เช่น หน้ากากและระบบระบายอากาศ และต้องมีการตรวจสุขภาพพนักงานอย่างสม่ำเสมอ
  • ข้อกำหนดของ OSHA (Occupational Safety and Health Administration): ในสหรัฐอเมริกา OSHA ได้กำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานกับสารเคมีต่าง ๆ รวมถึงควันและฝุ่นเชื่อม ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้เป็นแนวทางในหลายประเทศ

วิธีการควบคุมสภาพแวดล้อมในการทำงาน

การควบคุมสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากควันและฝุ่นเชื่อมได้ การใช้เทคนิคและเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมในการทำงาน :

  • ใช้ระบบดูดควัน (Fume Extraction Systems): ระบบนี้ช่วยดูดควันที่เกิดขึ้นในขณะเชื่อมออกจากพื้นที่ทำงาน ช่วยลดปริมาณสารเคมีที่อาจจะสูดดมเข้าไป
  • ใช้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรอัตโนมัติ: การใช้เทคโนโลยีการเชื่อมแบบอัตโนมัติ สามารถลดการสัมผัสกับควันและฝุ่นได้ โดยให้หุ่นยนต์ทำงานในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดควันและฝุ่นเชื่อม

สรุป

ควันและฝุ่นงานเชื่อมเป็นอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม การสูดดมหรือสัมผัสสารเคมีในควันและฝุ่นเชื่อมอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การป้องกันด้วยการใช้หน้ากาก การระบายอากาศที่เหมาะสม การฝึกอบรม การตรวจสุขภาพ และการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยปราศจากความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกิดจากควันและฝุ่นงานเชื่อม

บทความที่น่าสนใจ

You may also like

แหล่งรวมข้อมูลด้านความปลอดภัยในการทำงาน ที่คุณจำเป็นต้องรู้ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

ติดต่อ

@2024 – All Right Reserved. Designed and Developed by democracybuilders